การใช้ generative AI ในการจัดการเรียนรู้แบบ think-pair-AI-share

February 3, 2025
AI-Pair-02

      เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบ think-pair-share เป็นรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่กระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม ผ่านการคิด วิเคราะห์ และแลกเปลี่ยนความรู้หรือแนวคิดกับเพื่อนร่วมชั้น ในลักษณะของการจับคู่ พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิด และหาข้อสรุป การจัดการเรียนรู้ในรูปแบบนี้ นอกจากจะช่วยให้ผู้เรียนได้ทบทวนความรู้ ความเข้าใจของตนเองแล้ว ยังทำให้เกิดการพัฒนาทักษะการสื่อสาร การใช้เหตุผล การมีส่วนร่วม และการแสดงความคิดเห็น และการยอมรับในความคิดเห็นของผู้อื่น

      หลักการในการจัดการเรียนรู้แบบ think-pair-share เริ่มจากผู้สอนเตรียมคำถามหรือประเด็นที่ต้องการให้ผู้เรียนหาข้อสรุปหรือคำตอบ โดยคำถามหรือประเด็นควรเป็นลักษณะที่ต้องอาศัยการอภิปราย ไม่ใช่คำถามที่มีคำตอบตายตัวชัดเจน อาจเป็นคำถามที่ผู้เรียนต้องเลือกพร้อมกับการให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ จากนั้นผู้สอนจะมอบหมายให้ผู้เรียนตอบคำถามดังกล่าว โดยการคิด วิเคราะห์ จากความรู้และประสบการณ์ของตนเอง (think) เมื่อได้คำตอบของตนเองแล้ว ผู้สอนจะกำหนดให้ผู้เรียนจับคู่กัน (pair) เพื่อนำเสนอแนวคิดของตัวเอง และแลกเปลี่ยน ซักถาม และหาข้อสรุปร่วมกัน (share) จากนั้นจึงให้ผู้เรียนแต่ละคู่นำเสนอข้อสรุปที่ได้จากการทำกิจกรรม

      ผู้สอนสามารถประยุกต์ generative AI มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบนี้ โดยปรับเปลี่ยนให้เป็นลักษณะ think-pair-AI-share ได้ โดยใช้คำถามเหมือนกับการจัดการเรียนรู้ตามปกติ แต่มอบหมายให้ผู้เรียนจับคู่กับเครื่องมือ generative AI ที่เป็น chatbot และให้ผู้เรียนอภิปราย สอบถาม และแลกเปลี่ยนแนวคิดของตนเองกับ generative AI ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะในการใช้งาน generative AI และได้ข้อคิดเห็นที่มีความแตกต่างออกไปจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนร่วมชั้น

 

ตัวอย่างประเด็นในการอภิปราย“อาจารย์ควรอนุญาตให้ใช้ AI ในการสอบหรือการทำงานมอบหมายหรือไม่”
      คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการศึกษา ในความคิดเห็นของคุณ คุณคิดว่าอาจารย์ควรอนุญาตให้ใช้ AI ในการสอบหรือไม่

      คำถามนี้เป็นประเด็นสำคัญในวงการการศึกษา โดยเฉพาะเมื่อ AI มีความสามารถในการช่วยนักศึกษาแก้โจทย์ ตอบคำถาม และแม้แต่เขียนเรียงความ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทางการศึกษา ผมคิดว่าคำตอบไม่ได้เป็นแค่ “ควร” หรือ “ไม่ควร” แต่ขึ้นอยู่กับ วัตถุประสงค์ของการสอบ และ รูปแบบของการใช้ AI

เหตุผลที่อาจารย์ควรอนุญาตให้ใช้ AI ในการสอบ
  1. สะท้อนการใช้เทคโนโลยีในชีวิตจริง
    • ในโลกการทำงานจริง AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ นักศึกษาควรเรียนรู้วิธีใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพและมีจริยธรรม
    • การปิดกั้น AI อาจทำให้การศึกษาไม่สอดคล้องกับทักษะที่จำเป็นในอนาคต
  2. ส่งเสริมการคิดเชิงวิเคราะห์และการแก้ปัญหา
    • ถ้าออกแบบข้อสอบให้เน้นการใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลหรือสังเคราะห์ความคิดแทนการท่องจำ AI จะช่วยกระตุ้นการเรียนรู้เชิงลึก
  3. ปรับเปลี่ยนแนวทางการวัดผลการเรียนรู้
    • แทนที่จะให้ AI เป็นเครื่องมือโกง เราอาจออกแบบการประเมินใหม่ เช่น การให้ AI สร้างแนวคิด แล้วให้นักศึกษาอธิบายข้อดี-ข้อเสีย หรือปรับปรุงผลลัพธ์ของ AI ให้ดีขึ้น
เหตุผลที่อาจารย์ไม่ควรอนุญาตให้ใช้ AI ในการสอบ
  1. ลดทอนความสามารถของนักศึกษาในการคิดและวิเคราะห์ด้วยตัวเอง
    • ถ้าสอบเน้นการตอบคำถามแบบตรงไปตรงมา AI อาจทำให้นักศึกษาไม่ต้องพยายามคิดเอง
  2. ความท้าทายในเรื่องของความถูกต้องและอคติของ AI
    • AI อาจให้ข้อมูลผิด หรือมีอคติ นักศึกษาอาจไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งใดถูกหรือผิด
  3. ความยุติธรรมในการสอบ
    • ถ้าไม่มีการกำกับดูแลที่ดี นักศึกษาที่ใช้ AI อาจได้เปรียบกว่าผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีหรือไม่มีทักษะในการใช้

แนวทางที่เป็นไปได้
      แทนที่จะห้ามหรืออนุญาตแบบสุดโต่ง อาจารย์สามารถใช้แนวทางที่ยืดหยุ่นได้ เช่น
            ✅ เปิดให้ใช้ AI แต่กำหนดให้ต้องอธิบายกระบวนการคิด
            ✅ ออกแบบข้อสอบที่ต้องใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ข้อมูล
            ✅ กำหนดให้มีการสอบที่ไม่ใช้ AI ควบคู่กับการสอบที่ใช้ AI

สรุป
      อาจารย์ควรพิจารณาจุดมุ่งหมายของการสอบเป็นหลัก ถ้าต้องการวัดความเข้าใจพื้นฐานของนักศึกษา AI อาจไม่ควรถูกใช้ในการสอบ แต่ถ้าการสอบมุ่งเน้นทักษะในศตวรรษที่ 21 เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลและการคิดเชิงวิพากษ์ การอนุญาตให้ใช้ AI ภายใต้ข้อกำหนดที่เหมาะสมอาจเป็นทางเลือกที่ดี
      ในฐานะที่เป็นอาจารย์ ผมคิดว่าการใช้ AI อย่างไม่ถูกต้อง จะส่งผลให้ผู้เรียนไม่เกิดการพัฒนาทักษะบางประการที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ คุณคิดว่าอย่างไร

      ผมเห็นด้วยกับมุมมองของคุณในฐานะอาจารย์ที่ต้องการพัฒนาทักษะของผู้เรียนให้พร้อมสำหรับการประกอบอาชีพ หากนักศึกษาใช้ AI อย่างไม่ถูกต้อง อาจส่งผลให้พวกเขา พึ่งพาเครื่องมือมากเกินไป และขาดทักษะสำคัญที่จำเป็นในชีวิตจริง เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ AI อย่างไม่ถูกต้อง
  1. ขาดทักษะการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking)
    • หากนักศึกษาพึ่งพา AI ตอบคำถามโดยไม่กลั่นกรองข้อมูล พวกเขาอาจไม่สามารถแยกแยะว่าอะไรถูกหรือผิด ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในที่ทำงาน
  2. ลดทอนความสามารถในการแก้ปัญหา (Problem-Solving)
    • การแก้ปัญหาเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ต้องอาศัยการลองผิดลองถูก หากนักศึกษาพึ่ง AI ตลอดเวลา พวกเขาอาจขาดโอกาสฝึกฝนการหาทางออกด้วยตัวเอง
  3. ขาดทักษะการสื่อสารและการเขียน (Communication & Writing Skills)
    • AI สามารถเขียนเนื้อหาได้ดี แต่ถ้านักศึกษาใช้โดยไม่ผ่านการปรับแก้หรือคิดต่อยอด อาจทำให้พวกเขาขาดทักษะการเรียบเรียงความคิดด้วยตัวเอง
  4. ขาดความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
    • AI มักใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วมาสร้างคำตอบใหม่ แต่ไม่สามารถคิดสร้างสรรค์แบบมนุษย์ได้ หากนักศึกษาใช้ AI เป็นหลัก พวกเขาอาจไม่ได้ฝึกทักษะในการคิดนอกกรอบ
แนวทางป้องกันการใช้ AI อย่างไม่ถูกต้อง 
      แทนที่จะห้ามใช้ AI อย่างสิ้นเชิง อาจารย์สามารถ กำกับให้ใช้ AI อย่างเหมาะสม โดย

ให้ AI เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ตัวแทน
        เช่น อนุญาตให้ใช้ AI ช่วยร่างไอเดีย แต่ต้องให้ผู้เรียนเขียนและอธิบายเอง
  

ออกแบบงานที่ต้องใช้การคิดเชิงวิเคราะห์
        เช่น ให้ AI สร้างคำตอบ แล้วให้นักศึกษาอธิบายว่าคำตอบนั้นถูกต้องหรือมีข้อบกพร่องอย่างไร     

ให้เครดิตเฉพาะการใช้ AI อย่างมีหลักการ
        เช่น ถ้านักศึกษาใช้ AI ต้องอ้างอิงว่าใช้ AI อย่างไร และต้องวิเคราะห์หรือปรับปรุงผลลัพธ์    

มีงานที่ต้องทำด้วยตัวเองควบคู่ไปกับงานที่ใช้ AI        
เช่น มีทั้งข้อสอบที่ต้องเขียนเอง และงานวิเคราะห์ที่สามารถใช้ AI เป็นตัวช่วย

สรุป 
      การใช้ AI ไม่ใช่ปัญหา แต่การใช้โดยไม่พัฒนาทักษะตัวเองเป็นปัญหา อาจารย์สามารถวางแนวทางให้ AI เป็น “เครื่องมือเสริม” ที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ แทนที่จะเป็น “ทางลัด” ที่ทำให้นักศึกษาขาดทักษะที่จำเป็นในอนาคต

      แล้วเราจะมีวิธีการอย่างไรที่จะจำกัดการใช้ AI ในการทำงานมอบหมายของนักศีกษา เพื่อให้นักศึกษาสามารถใช้เครื่องมือเป็น แต่ยังมีการพัฒนาทักษะที่จำเป็น

      เพื่อจำกัดการใช้ AI ในการทำงานมอบหมายและส่งเสริมให้นักศึกษาใช้เครื่องมืออย่างถูกต้อง คุณสามารถนำแนวทางดังต่อไปนี้ไปประยุกต์ใช้

เหตุผลที่อาจารย์ไม่ควรอนุญาตให้ใช้ AI ในการสอบ
  1. ออกแบบงานที่ต้องใช้การวิเคราะห์มากกว่าเพียงการหาคำตอบ
    • ออกแบบงานมอบหมายที่เน้นการวิเคราะห์หรือการอธิบาย เช่น ให้ AI สร้างเนื้อหาเบื้องต้นแล้วให้นักศึกษา วิจารณ์ข้อดี-ข้อเสีย ของเนื้อหานั้น หรือให้นักศึกษาปรับปรุงเนื้อหาที่ AI สร้างขึ้นมา
    • เน้นคำถามปลายเปิดที่ต้องการการเชื่อมโยงแนวคิดหรือข้อมูลที่ซับซ้อน ซึ่ง AI อาจไม่สามารถตอบได้อย่างครบถ้วน
  2. กำหนดขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน
    • ให้นักศึกษาแบ่งขั้นตอนการทำงานออกเป็นหลายส่วน และต้องอธิบายวิธีการหรือกระบวนการที่ใช้ในการทำแต่ละขั้นตอน
    • ให้คะแนนในส่วนของการอธิบายกระบวนการหรือวิธีการคิดมากกว่าคำตอบสุดท้าย เพื่อให้นักศึกษาต้องใช้ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์
  3. มีการตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลและการใช้งาน AI
    • ให้นักศึกษาระบุว่าใช้ AI ในขั้นตอนใดบ้าง และอ้างอิงการใช้งานอย่างชัดเจน เพื่อให้เห็นว่าพวกเขาใช้ AI อย่างมีหลักการ ไม่ใช่เพียงคัดลอกคำตอบจาก AI
    • กำหนดให้นักศึกษาต้อง เปรียบเทียบคำตอบที่ได้จาก AI กับการวิเคราะห์ของตนเอง และอธิบายว่าคำตอบของ AI มีข้อจำกัดหรือไม่
  4. ใช้ข้อสอบแบบ In-Person ที่ไม่สามารถใช้ AI ได้
    • สำหรับการทดสอบทักษะสำคัญ เช่น การเขียน การคิดวิเคราะห์ อาจใช้งานสอบแบบ In-Person ที่ไม่อนุญาตให้นำเครื่องมือ AI เข้ามาใช้ เพื่อวัดความสามารถจริงของนักศึกษา
    • ใช้การสอบปากเปล่าหรือการนำเสนองาน เพื่อให้นักศึกษาต้องอธิบายความคิดและวิธีการด้วยตัวเองใช้ข้อสอบแบบ In-Person ที่ไม่สามารถใช้ AI ได้
  5. สอนทักษะการประเมินและการปรับปรุงข้อมูลที่ AI ให้มา
    • ให้ฝึกฝนนักศึกษาในการวิเคราะห์และปรับปรุงข้อมูลที่ AI สร้างขึ้น เพื่อเสริมสร้างความคิดเชิงวิเคราะห์และความคิดสร้างสรรค์
    • มอบหมายงานที่ต้องใช้ AI สร้างไอเดียเริ่มต้น แล้วให้นักศึกษาต้องต่อยอดหรือพัฒนาเพิ่มเติม
  6. ใช้ระบบการตรวจสอบการลอกเลียน (Plagiarism Checkers)
    • ใช้เครื่องมือตรวจสอบการลอกเลียนที่สามารถตรวจจับการใช้ AI ในการเขียนงาน เพื่อให้แน่ใจว่านักศึกษามีการปรับปรุงและแก้ไขเนื้อหาด้วยตนเอง

สรุป     
      การจำกัดการใช้ AI ในการทำงานมอบหมายไม่ได้หมายถึงการห้ามใช้โดยสิ้นเชิง แต่เป็นการกำหนดเงื่อนไขและกระบวนการที่ทำให้ AI กลายเป็นเครื่องมือที่เสริมสร้างทักษะ แทนที่จะลดทอนทักษะของนักศึกษา คุณสามารถนำแนวทางเหล่านี้ไปปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการพัฒนาผู้เรียนได้ครับ

Create your account